ธุรกิจสบู่สู่งานของสตรีชาวอิรัก

แปลจากบทความเรื่อง Turning soap jobs Iraqi women

ธุรกิจสบู่สู่งานของสตรีชาวอิรัก

เมื่อ Zinah Saleh หญิงสาวชาวอิรักวัย 28 ปี และเหล่าเพื่อนสาวของเธอไม่สามารถหางานทำได้ภายหลังสงครามแบกแดด เธอจึงเริ่มธุรกิจ Ishtar Handmade Soap และจ้างเฉพาะผู้หญิงทำงานให้กับธุรกิจของเธอ

Zinah Saleh จบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจจาก University of Baghdad เมื่อปี ค.ศ. 2011 ตอนนั้นเธอดูเหมือนกำลังจะก้าวสู่ความสำเร็จทางอาชีพ แต่ทั้งเธอและเพื่อนของเธอไม่สามารถหางานทำได้ เธอเล่าว่า “ดูเหมือนพวกเขาต้องการแต่ผู้ชาย ที่นี่คือแบกแดด มีผู้หญิงไม่กี่คนหรอกที่จะมีโอกาสได้งานทำ”

ในประเทศอิรัก โดยเฉพาะช่วงหลังสงคราม ผู้จ้างงานเลือกจ้างผู้ชายมากกว่าเพราะเชื่อว่าบทบาททางสังคมของผู้ชายคือผู้เลี้ยงดูครอบครัว และผู้หญิงคือผู้ดูแลบ้านต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนเพื่อดูแลเด็กและทำงานบ้าน แต่ในความเป็นจริง ความเชื่อแบบนี้ทำให้ผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงาน แม่ม่าย หรือผู้ลี้ภัยจากความรุนแรงที่ยังคงเกิดขึ้นทั่วไปในประเทศต้องตกอยู่ในภาวะยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเธอไม่ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากครอบครัว

ในวัย 28 ปี สังคมอิรักมองว่า Saleh อายุมากเกินกว่าจะเป็นเจ้าสาวแล้ว อีกทั้งเธอยังมาจากครอบครัวที่มีการศึกษาและรู้จักโลกกว้าง พ่อของเธอเป็นวิศวกร แม่ของเธอและลูกพี่ลูกน้องของเธอเป็นแม่บ้านที่ใช้ชีวิตและทำงานในต่างประเทศ และตัวเธอเองก็ไม่มีความต้องการที่จะอยู่บ้าน หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย เธอเป็นอาสาสมัครกับองค์กรด้านมนุษยชน Alrawdh ซึ่งช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและแม่ม่ายจากสงคราม รวมทั้งยังทำงานเพื่อยุติการแต่งงานของเด็ก แต่เธอก็ต้องการที่จะทำงานและสร้างอิสรภาพทางการเงินให้แก่ตัวเอง เช่นเดียวกับที่ต้องการให้สตรีชาวอิรักคนอื่นๆ ดังนั้น ในปี ค.ศ. 2013 เธอจึงตัดสินใจเริ่มธุรกิจที่ดำเนินงานด้วยผู้หญิงทั้งหมด ชื่อ Ishtar Handmade Soap “ฉันเชื่อว่าเราสามารถเอาชนะความยากจนได้ด้วยการสร้างโอกาสในการทำงานให้กับผู้หญิง เพราะหากคุณช่วยผู้หญิงจากความยากจน เท่ากับคุณช่วยทุกคนในบ้านของเธอด้วย”

ความหลงใหลในสบู่ธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์

“ฉันรักการทำสบู่ที่มาจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์”

Saleh เรียนทำสบู่จากคลาสออนไลน์ และตัดสินใจก้าวสู่ธุรกิจสบู่จากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ภายหลังจากที่เพื่อนรักคนหนึ่งของเธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดโดยมีสาเหตุมาจากสารพิษที่แฝงอยู่ในเครื่องสำอาง ในตอนแรก Saleh ทำสบู่ให้เพื่อนและครอบครัวใช้ แต่เธอมองเห็นช่องทางเชิงธุรกิจ หลังสงครามตลาดเครื่องสำอางของอิรักเต็มไปด้วยสินค้าราคาถูกจากจีนและที่อื่นๆ ซึ่งสร้างปัญหาให้กับผิวพรรณ ในขณะที่สบู่ธรรมชาติของเธอช่วยให้คนมีสุขภาพดีขึ้น และเพื่อลับคมให้ทักษะทางธุรกิจของตนเอง ในปี ค.ศ. 2014 เธอเข้าร่วมโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการเพื่อผู้หญิงตะวันออกกลางและสวีเดน ชื่อ She Entrepreneur จัดโดย Swedish Institute ใช้เวลาทั้งสิ้น 6 เดือน กิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นใน Stockholm และ Tunisia ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยส่งเสริมในเรื่องความเป็นผู้นำ ช่วยเธอพัฒนาแผนธุรกิจและแผนการตลาด พร้อมทั้งยังมีเมนเทอร์จากอุตสาหกรรมเครื่องสำอางมาช่วยให้คำปรึกษาแก่เธออีก 2 คน

Saleh เล่าว่าในตะวันออกกลาง “น้อยมากที่ครอบครัวจะปล่อยให้ลูกสาวเดินทางคนเดียว แต่พ่อแม่ฉันสนับสนุนและปล่อยให้ฉันไป เมื่อกลับมายังอิรัก ฉันก็เริ่มธุรกิจเลย เราตั้งบริษัท และมันก็เป็นบริษัทแรกในอิรักที่สร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นบริษัทแรกเช่นกันที่ดำเนินการด้วยผู้หญิงทั้งหมด“

เป้าหมายในการสร้างงานให้แก่ผู้หญิง

Saleh ยังต้องการที่จะสร้างงานให้กับผู้หญิงอิรัก ปัจจุบันนี้ มีผู้หญิงทำงานกับเธอเต็มเวลา 8 คน และทำงานพาร์ทไทม์ 12 คน พนักงานของเธอ 2 คนเป็นผู้ลี้ภัยจากเมือง Mosul ที่เมืองถูกยึดโดย ISIS มาแล้ว 3 ปี และกองทัพอิรักก็ต่อสู้มาโดยตลอดเพื่อยึดเมืองนั้นคืนตลอดหกเดือนที่ผ่านมา ปัจจุบัน เธอจ้างผู้หญิงคนหนึ่งที่โพสต์อย่างเศร้าโศกบนเฟสบุ๊คว่าเธอกำลังจะต้องเลิกเรียนวิทยาลัยเพราะไม่มีเงินทุน “ฉันจ้างเธอเพื่อให้เธอมีโอกาสได้เรียนต่อ” Saleh กล่าว บริษัทยังไม่มีที่ทำงานส่วนกลาง ดังนั้น พนักงานผลิตจึงทำสบู่ เจลอาบน้ำ และแชมพูที่บ้านของพวกเธอ ใช้น้ำมันมะกอกท้องถิ่น เชียบัตเตอร์ และโกโก้บัตเตอร์ที่มาจากอเมริกา พนักงานคนอื่นๆ ก็ทำบรรจุภัณฑ์ บริหารงาน และทำการตลาดผ่าน social media ปัจจุบัน Ishtar Handmade Soap มีแฟนเพจในเฟสบุ๊คถึง 43,000 คน

พวกเธอได้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากทั่วประเทศอิรัก และออกไปขายผลิตภัณฑ์ในตลาดสุดสัปดาห์ พวกเธอจะช่วยกันจัดโต๊ะจำหน่ายสินค้าในสวน ในร้านอาหาร และพื้นที่อื่นๆ ที่สามารถขายของได้ การทำให้คนยอมรับผลิตภัณฑ์ที่ทำโดยผู้หญิงทั้งหมด ช่วยขยายขอบเขตวัฒนธรรมให้กว้างขึ้น และทำให้เกิดการยอมรับมากขึ้นในสาธารณะ “เราขายสินค้าได้มากกว่า 2,000 ชิ้นต่อเดือน เราทำเงินได้มากพอที่จะเลี้ยงดูพวกเราได้” ปัจจุบันยอดขายพุ่งไปถึง 5,000 ดอลล่าร์ต่อเดือน จากที่ตอนเริ่มต้นพวกเขาขายได้แค่เดือนละ 1,000 ดอลล่าร์เท่านั้น “ผู้หญิงทุกคนที่ทำงานให้เรามีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทุกวันนี้พวกเธอเข้มแข็ง มีอิสรภาพ เมื่อฉันมองพวกเธอ ฉันก็ยิ่งอยากจะช่วยผู้หญิงในจำนวนที่มากขึ้นอีก”

Saleh มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปทางตอนใต้ของประเทศ ยิ่งธุรกิจของเธอใหญ่ขึ้น เธอก็ยิ่งสามารถที่จะจ้างผู้หญิงได้มากขึ้น เธอตั้งเป้าว่าจะจ้างผู้หญิงมาทำงานให้ได้ 100 คน ภายใน 2 ปี “เราให้ความหวังแก่ผู้หญิงในตะวันออกกลางและส่งเสริมให้พวกเธอมีธุรกิจเป็นของตนเอง และไม่ต้องรอโอกาสทางอาชีพจากคนอื่นอีกต่อไป แต่พวกเธอจะสร้างมันขึ้นด้วยตัวเองได้ในที่สุด”

ทำไมเราจึงควรสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยสิ่งที่เราหลงใหลและมีเป้าหมาย?

“ฉันเชื่อในพลังของความเปลี่ยนแปลงและเชื่อว่าพวกเราทุกคนเกิดมาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดี ฉันและผู้หญิงคนอื่นๆ ในตะวันออกกลางมีปัญหาในการหางานทำและไม่ได้รับการสนับสนุนในเรื่องนี้จากสังคมที่ผลักดันให้เราต้องแต่งงานและถูกควบคุมโดยผู้ชายเท่านั้น ฉันเชื่อว่าเราเกิดมาเพื่อบอกสังคมว่าผู้หญิงสามารถสร้างโชคชะตาของเธอเองและพวกเธอสามารถทำมาหากินได้เหมือนผู้ชายและเปลี่ยนชีวิตตัวเองได้ ฉันเชื่อว่าพวกเราไม่ควรเป็นเหยื่อเพียงเพราะเราเกิดมาในพื้นที่สงครามหรือในสังคมที่ให้โอกาสผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เราเลือกได้ว่าจะเป็นเหยื่อหรือไม่”