อีกไอเดียการนำงานวิจัยสู่สังคม – อุทยานการเรียนรู้ TK park จับมือ สกว. ย่อยความรู้จากงานวิจัยให้เป็น“สื่อการเรียนรู้สร้างสรรค์” หวังจุดประกายความสนใจเยาวชนให้เกิดการต่อยอดการเรียนรู้

อีกไอเดียการนำงานวิจัยสู่สังคม - อุทยานการเรียนรู้ TK park จับมือ สกว. ย่อยความรู้จากงานวิจัยให้เป็น“สื่อการเรียนรู้สร้างสรรค์” หวังจุดประกายความสนใจเยาวชนให้เกิดการต่อยอดการเรียนรู้

ความรู้ใหม่ๆ จากผลงานวิจัยเล่มโตๆ ที่นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ หรือผู้รู้จากวงการต่างๆ ได้ศึกษาค้นคว้า ทดลองกันนั้น มักจะได้ยินบ่อยๆ ว่าเป็นผลงานขึ้นหิ้ง เพราะเมื่อค้นคว้า วิจัยเสร็จแล้วก็ไม่ได้นำความรู้เหล่านั้นมาเผยแพร่ ความรู้ต่างๆ จึงยังคงอยู่ในหนังสือเล่มหนาๆ โตๆ ที่น้อยคนจะสนใจเปิดอ่าน !!!

แต่วันนี้อุทยานการเรียนรู้ TK park และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้จับมือร่วมกันย่อยความรู้จากหนังสือเล่มหนาๆ ออกมาเป็นสาระบันเทิงให้น้องๆ ได้สนุกสนานกับการเรียนรู้ในรูปแบบคลิปวิดิโอภายใต้ชื่อชุด “รายการวิจัยวาไรตี้” ผ่านโครงการ “การสร้างสรรค์สื่อเพื่อเรียนรู้งานวิจัย” และพร้อมส่งต่อความรู้บนโลกออนไลน์ ให้เด็กๆ และเยาวชนเข้าไปสืบค้นข้อมูล สาระความรู้แปลกๆ ใหม่ๆ ที่เป็นเรื่องใกล้ตัว ได้อย่างไร้ข้อจำกัด รวมไปถึงสถานศึกษาและหน่วยงานต่างๆ ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เพียงแค่ คลิกเข้ามาที่เว็บไซต์สื่อสร้างสรรค์ทาง www.tv.trf.or.th

ดร.อธิปัตย์ บำรุง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ กำกับดูแลอุทยานการเรียนรู้ TK park กล่าวว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมาอุทยานการเรียนรู้ TK park ได้ร่วมกับ สกว. ในการนำเนื้อหางานวิจัย มาสร้างสรรค์เป็นนิทรรศการมีชีวิตในลักษณะชุดนิทรรศการเคลื่อนที่ โดยออกแบบและจัดทำเนื้อหาอย่างเหมาะสม พร้อมออกแบบกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อสร้างเสริมความเข้าใจให้แก่เนื้อหาต่างๆ เพื่อจุดประกายความสนใจและสร้างให้เกิดการค้นคว้าและต่อยอดความรู้ผ่านช่องทางต่างๆ มาโดยตลอด ซึ่งปัจจุบันชุดนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้ของอุทยานการเรียนรู้ TK park มีจำนวนไม่น้อยกว่า 80 หัวข้อ โดยให้ความรู้กับผู้เข้าชมไม่น้อยกว่า 600,000 คน ทั้งผู้ใช้บริการของอุทยานการเรียนรู้ TK park รวมไปถึงหน่วยงาน องค์กร สถาบันการศึกษา และห้องสมุดต่างๆ

นอกจากนี้ยังได้มีการขยายผลและส่งต่อองค์ความรู้ ผ่านบริการให้ยืมชุดนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้ การดาวน์โหลดไฟล์ชุดนิทรรศการและคู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ รวมไปถึงการถ่ายทอดภาพกิจกรรมจากพื้นที่อุทยานการเรียนรู้ TK park ผ่านช่องทาง www.tkpark.or.th และ www.tkpark.tv เพื่อให้เครือข่ายห้องสมุดมีชีวิตของอุทยานการเรียนรู้ TK park จำนวน 34 แห่ง ใน 24 จังหวัดได้รับชม รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ยังสามารถนำชุดนิทรรศการไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงาน องค์กร สถาบันการศึกษาและห้องสมุดต่างๆ ในแต่ละพื้นที่อีกด้วย

“จากสถิติล่าสุด อุทยานการเรียนรู้ TK park ได้ให้บริการยืมชุดนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้ ไปแล้วจำนวน 61 หัวเรื่อง มีการจัดแสดงทั้งหมด 465 ครั้งจาก 217 หน่วยงาน ส่งผลให้มีจำนวนผู้ได้รับองค์ความรู้ไปแล้วมากกว่า 500,000 คน รวมทั้งการให้บริการดาวน์โหลดไฟล์ชุดนิทรรศการและคู่มือกิจกรรมการเรียนรู้ ผ่านเว็บไซต์ www.tkpark.or.th อีกจำนวน 55 หัวเรื่อง จากหน่วยงานต่างๆ มากกว่า 1,000 หน่วยงาน ทำให้มีผู้ได้รับความรู้จากชุดนิทรรศการผ่านการดาว์นโหลดอีกไม่น้อยกว่า 110,000 คนจากทั่วประเทศ

สำหรับความร่วมมือของอุทยานการเรียนรู้ TK park และ สกว. ผ่านโครงการ “การสร้างสรรค์สื่อเพื่อเรียนรู้งานวิจัย” ครั้งนี้ เป็นการพัฒนาในลักษณะของคลิปความรู้ในชื่อ “รายการวิจัยวาไรตี้” โดยได้นำสาระสำคัญของงานวิจัยของ สกว. มานำเสนอในรูปแบบของสื่อมัลติมีเดีย ภายในเวลา 10 – 15 นาที โดยกลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ทั้งนี้เพื่อส่งต่อความรู้ในโลกออนไลน์และสามารถนำไปใช้ได้อย่างไร้ข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่ รวมถึงสามารถส่งต่อให้กับสถานศึกษาและหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการใช้ประโยชน์

โดยโครงการ “การสร้างสรรค์สื่อเพื่อเรียนรู้งานวิจัย” เป็นการทดลองนำสื่อชุดนิทรรศการสร้างสรรค์จาก”โครงการกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการ” ตามที่อุทยานการเรียนรู้ TK park ได้ร่วมมือทางวิชาการกับ สกว. จำนวน 9 หัวเรื่อง โดยนำไปพัฒนาและผลิตเป็นรายการวิจัยวาไรตี้ จำนวน 10 ตอน ได้แก่ ปริศนาแห่งเปลือกหอย, เทคโนโลยีอวกาศ, นานาเรื่องนม, กินอย่างไทยให้ไร้โรค, เรื่องเผ็ดๆ ของพริกตอนที่ 1-2, เรื่องกล้วยกล้วย, มะพร้าว 360 องศา, ข้าว… สายใยอาเซียน และงานวิจัยไทยโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)

ด้านดร.ภาคภูมิ ทิพคุณ รองผู้อำนวยการฝ่าย ด้านการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์และการสื่อสารสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า สกว. เป็นหน่วยงานสนับสนุนทุนวิจัยหลักแห่งหนึ่งของประเทศ มีภารกิจในการสร้างความรู้และนวัตกรรม สร้างนักวิจัย และนำผลงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งภารกิจในการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ นั้นถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก

“สกว. ได้กำหนดกรอบในการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยไว้ 5 ด้าน ได้แก่ การใช้ประโยชน์จากงานวิจัยในเชิงวิชาการ เชิงนโยบาย เชิงสาธารณะ เชิงพาณิชย์ ในเชิงชุมชนและพื้นที่ สกว. ตระหนักว่าการจะผลักดันผลงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ได้อย่างจริงจังนั้น จะต้องมีการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย เพราะจะได้มีการเสริมพลังการทำงานร่วมกัน ระหว่างการสร้างองค์ความรู้และการผลักดันองค์ความรู้ไปสู่การใช้ประโยชน์จริง”

ความร่วมมือที่ผ่านมา เป็นการส่งเนื้อหาผลงานวิจัยให้กับอุทยานการเรียนรู้ TK Park เพื่อนำไปสร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ ซึ่ง สกว. เล็งเห็นว่าอุทยานการเรียนรู้ TK Park มีระบบที่ดี มีความเชี่ยวชาญ และมีเครือข่ายที่กว้างขวางที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชนและประชาชนในวงกว้าง และยังมีแนวทางขยายความร่วมมือให้กว้างขวางยิ่งขึ้นในอนาคต เช่น ความร่วมมือในการผลิตสื่อเพื่อการเรียนรู้ ความร่วมมือเพื่อการเผยแพร่สื่อการเรียนรู้ต่างๆ ของ สกว. ฯลฯ

นอกจากนี้อาจารย์รัตนางค์ ตุละวรรณ หัวหน้าโครงการวิจัยวาไรตี้ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการนำความรู้จากงานวิจัยมาย่อย เพื่อให้น้องๆ ระดับชั้นมัธยมต้นได้เพิ่มพูนความรู้ใหม่ๆ โดยการนำเสนอความรู้ที่สามารถเข้าใจได้ง่าย และสนุก เพื่อให้น้องๆ เกิดแรงบันดาลใจการศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ จึงได้จัดเป็นรายการกึ่งบันเทิง ชื่อรายการวิจัยวาไรตี้ ความยาว 10-15 นาที จำนวน 10 ตอนดังกล่าว

“หลังจากผลิตรายการเสร็จ โครงการได้มีการจัดกิจกรรมสัญจรขึ้นเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับชมรวมทั้งจัดทำการประเมิน ซึ่งได้จัดกิจกรรมสัญจรผ่านเครือข่ายอุทยานการเรียนรู้ TK park รวม 5 จังหวัดได้แก่ ยะลา ระยอง พิษณุโลก นครราชสีมา และมาปิดท้ายที่สมุทรสาคร

จากผลประเมินการรับชมกลุ่มเป้าหมายที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี น้องๆ ส่วนใหญ่บอกว่าได้รับความรู้จากคลิปวิดีโอดังกล่าวโดยเฉพาะเรื่องใกล้ตัวและเรื่องที่แปลกใหม่ นอกจากนี้ยังชื่นชอบพิธีกร รวมทั้งแสดงความคิดเห็นว่า อยากให้ในโรงเรียนใช้สื่อการเรียนรู้การสอนแบบนี้อีกด้วย”

สำหรับการจัดกิจกรรมโครงการ “การสร้างสรรค์สื่อเพื่อเรียนรู้งานวิจัย” สัญจร ณ อุทยานการเรียนรู้สมุทรสาคร (SK park) จังหวัดสมุทรสาครครั้งนี้ มีน้องๆ จากโรงเรียนภายในจังหวัดมารับชมรายการวิจัยวาไรตี้ จำนวน 2 เรื่องได้แก่ นานาเรื่องนม และเรื่องเผ็ดๆ ของพริก ซึ่งน้องๆ ส่วนใหญ่ชื่นชอบ เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวและยังได้ความรู้ที่แปลกใหม่ นอกจากนี้ยังมีการจัดบูธแจกนมควาย และแสดงสินค้าจากพริก เป็นการเพิ่มให้ความรู้กับน้องๆ อีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้สำหรับคลิปความรู้ทั้ง 10 ตอนดังกล่าวที่จัดทำขึ้น อุทยานการเรียนรู้ TK park จะดำเนินการส่งมอบให้เป็นสื่อการเรียนรู้กับเครือข่ายห้องสมุดมีชีวิตของอุทยานการเรียนรู้ TK park จำนวน 34 แห่ง ใน 24 จังหวัด และส่งต่อไปยังโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รวมถึงการเปิดให้เยาวชนได้เรียนรู้ผ่านทางเว็บไซต์สื่อสร้างสรรค์ ผ่าน www.tv.trf.or.th ต่อไป

ที่มา www.thaipr.net